ความรู้สึกไม่มีความสุขกับการทำงานเกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนทำงานประจำเท่านั้น! งานวิจัยด้านสมองหลายชิ้นพบว่า เมื่อมนุษย์รู้สึกถึงการคุกคามบางอย่างที่ทำให้ไม่สบายกายหรือไม่สบายใจ ทันใดนั้นสมองหรือเรา ซึ่งอาจจะเรียกว่า สัญชาติญาณการเอาตัวรอดจะสั่งให้เรามองหาทางเลือกใหม่ที่ดีกว่าให้ตัวเอง
เมื่อมองในมุมนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนทำงานประจำ อยากออกไปทำธุรกิจของตัวเอง หรืออยากเป็นเจ้าของกิจการเสียเอง เพราะต้องการหลุดจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ ที่ไม่เป็นอิสระ แต่ความเป็นจริงที่คนมองข้าม คืองานแต่ละอย่างก็มีกรอบเฉพาะทางของตัวเอง ดังนั้นความรู้สึกไม่มีความสุขกับการทำงาน อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานโดยตรงก็ได้ แต่อาจเป็นผลที่เกิดขึ้นจากความไม่พอใจในสภาวะที่เป็นอยู่ต่างหาก
ดังนั้นการแก้ปัญหา “ อาการไม่เป็นสุข ” ในการทำงานไม่ใช่การเปลี่ยนงานเหมือนที่เราคิด แต่ต้องเริ่มรักษาข้างในตัวเราเองก่อน ต้องเริ่มที่ความสุขให้กับตัวเราก่อน เป็นความสุขที่จะทำให้เรารักงาน และนำไปสู่การรักการทำงานต่อไป ความสุขนั้นเป็นของทุกคน ที่เป็นของประทานจากพระเจ้า และเป็นความสุขที่ไม่มีใครขโมยความสุขของเราไปได้.. ถ้าเราไม่อนุญาต
ความเบื่อหน่าย จากการทำงานที่จำเจ ซ้ำซาก ทั้งเพื่อนรวมงานหรือเจ้านายนั้น หนีไปที่ไหน ไปทำงานอะไร ก็คงต้องเจออีก ดังนั้นต้องแก้ที่ตัวเรา ให้เกิดความรักในงานนั้น จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต หากทำได้เราก็จะรักงานนั้นๆ ที่เราทำอยู่ ทำงานก็จะทำอย่างมีความสุข เมื่อมีความสุขสิ่งที่ซ้ำซากจำเจ หรือความเบื่อก็จะไม่มีมารบกวนเราอีก ความสุขจากการทำงานก็จะต้องเปลี่ยนภาพลบให้เป็นภาพบวกได้
ก่อนลงมือทำงาน ต้องบอกกับตัวเองว่า “ ผม/ฉัน จะทำงานนี้ให้ดีที่สุดได้อย่างไร? ” วิธีคิดแบบนี้จะสร้างความสนุกและความท้าทายในการทำงานแต่ละวัน แต่ละครั้งได้ เป็นการกระตุ้นความกระตือรือร้นของตัวเราเองอยู่ตลอดเวลาของการทำงาน อันเป็นงานที่คุณรัก คุณจะไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะทำแล้วสนุก ได้ลุ้นกับผลงานที่เราตั้งอกตั้งใจทำเพื่อให้ออกมาดีที่สุด สุดท้ายเมื่องานแต่ละชิ้นหรือในแต่ละวัน สำเร็จเสร็จครบตามกรอบเวลาของงานนั้น คุณก็จะได้ภูมิใจและมีความสุขกับความสำเร็จที่สร้างมันให้สำเร็จด้วยมือ และมันสมองของคุณเอง.. มาถึงตอนนี้ความสุขกับการทำงาน ก็จะได้ความสุขจากผลสำเร็จของงานอีก กลายเป็นความสุขสองเท่า
นี่คือผลของคนทำงานอย่างมีความสุข ตรงกับพระวจนะธรรมที่ว่า “ อย่าให้เราเมื่อยล้าในการกระทำความดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเกี่ยวเก็บในเวลาอันควร ” (กาลาเทีย 6:9)
โดย : อาจารย์อำนวย เรืองชาญ
นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ”
องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง