ชาวนาคนหนึ่ง.. มีนาฬิกาที่เขารักอยู่เรือนหนึ่ง เพราะเป็นมรดกตกทอดมานาน เขาสวมนาฬิกาเรือนนี้ตลอดเวลา ยกเว้นเวลาอาบน้ำ ปรากฏว่านาฬิกาได้หล่นหายไป เขาตกใจพยายามค้นหาทุกจุดที่คิดว่านาฬิกาจะตกอยู่ แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ เขาเสียดายมาก ก็พอดีมีเด็กกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาถามว่า “ กำลังหาอะไรอยู่หรือครับ? ” ชาวนาบอกว่านาฬิกาของเขาหล่นหายไป ถ้าใครช่วยหาได้จะให้เงินเป็นรางวัล
เด็กๆเหล่านั้นก็พากันช่วยหานาฬิกา ทุกคนวิ่งไปมารื้อข้าวของค้นหานาฬิกา ส่งเสียงเจี้ยวจ้าวไปหมด สักพักใหญ่ๆเด็กก็เลิกค้นหา เพราะไม่ว่าจะหายังไงก็ไม่เจอ ชาวนาเองก็ถอดใจคิดว่ายังไงๆ ก็คงหายไปแล้ว แต่มีเด็กอีกคนหนึ่งบอกว่า “ ขอเวลาอีกหน่อย ขอผมอยู่คนเดียวสักพัก จะลองดูว่าจะหานาฬิกาเจอหรือไม่ ” แล้วเด็กคนนั้นก็ลงมือหานาฬิกาต่อไป สักพักหนึ่งชาวนาก็บอกว่าจะไปรออยู่ที่บ้าน แต่ช่วงเวลานั้นเอง เด็กคนนั้นก็เดินออกมาพร้อมนาฬิกาข้อมือของชาวนาที่คิดว่าหายไปแล้ว ชาวนาเองก็ประหลาดใจมาก เพราะทั้งตัวเขาและเด็กๆอีกหลายคนก็ช่วยกันหาสุดกำลังแต่ก็หาไม่เจอ แล้วเด็กคนนี้หาเจอได้อย่างไร?
เด็กคนนั้นบอกว่า “ ผมเข้าไปในคอกม้า แล้วผมก็เลือกมุมมุมหนึ่ง แล้วก็นั่งลงเฉยๆ และนิ่งเงียบตั้งใจฟัง สักพักผมก็ค่อยๆได้ยินเสียงนาฬิกาเดิน แล้วผมก็เดินตามเสียงนั้นไป จึงได้พบนาฬิกาเรือนนี้ครับ ”
เรื่องนี้ได้ให้บทเรียนแก่เราว่า บางครั้งเมื่อชีวิตของเราตกอยู่ในภาวะแห่งความวุ่นวาย มีเสียงผู้คนอึกทึกคึกโครม อื้ออึ้งไปหมด รบกวนให้เราขาดสมาธิ เช่น อินเตอร์เน็ต เสียงโทรทัศน์ เสียงวิทยุ เสียงเพลงสารพัด รวมทั้งเสียงผู้คนมากมาย เสียงรถราวิ่งไปมาตลอดเวลา ซึ่งมันก็เหมือนกับเสียงเด็กๆ ที่ส่งเสียงเจี้ยวจ้าว ค้นหานาฬิกาให้ชาวนาที่หล่นหายไป จนบางครั้งอาจจะทำให้เราไม่ได้ยินเสียงบางอย่าง ที่อาจจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตของเรา เพราะเสียงที่ดีมีคุณค่าต่อชีวิต เหล่านั้น อาจจะถูกกลบไปด้วยสารพัดเสียงที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดต่อชีวิต และความสงบสุขของเราเลย และเราอาจจะไม่ได้ยินเสียงของพระเจ้าที่ตรัสกับเรา เพราะถูกกลบด้วยสารพัดเสียงที่ดังอยู่รอบตัวเรา ไม่มีสมาธิที่เราจะอ่านพระวจนะธรรมและเข้าเฝ้าอธิษฐานสนทนากับพระเจ้า ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงของบรรดาผู้ลำบากเหน็ดเหนื่อยทั้งหลาย ที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา
ดังนั้นบางครั้ง เราจำเป็นต้องการที่จะหัดฟังในความเงียบ และความนิ่งสงบ ที่จะทำให้เรามีสมาธิในการเข้าเฝ้าทูลขอความช่วยเหลือต่อพระเจ้า และเราจะได้ฟังและพบคำตอบอย่างชัดเจน ในท่ามกลางความเงียบสงบนั้น ซึ่งจะชัดเจนยิ่งกว่าในความวุ่นวายสารพัดที่อยู่รอบๆตัวเรา
ลองหัดฟัง..ในความเงียบและความสงบดูบ้างนะครับ เราอาจจะได้คำตอบคำตอบบางอย่างที่ เราคาดไม่ถึงบ้างก็ได้
โดย : อาจารย์อำนวย เรืองชาญ
นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ”
องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง
