กิจการ 4:1-7 – ขณะที่เปโตรกับยอห์นยังกล่าวแก่คนทั้งปวงอยู่ ปุโรหิตทั้งหลายกับนายทหารรักษาพระวิหาร และพวกสะดูสีมาหา ด้วยเขางุ่นง่านใจเพราะท่านทั้งสองได้สั่งสอนและประกาศแก่คนทั้งหลาย ถึงเรื่องการเป็นขึ้นมาจากความตาย โดยอ้างการคืนพระชนม์ของพระเยซู เขาจึงจับท่านทั้งสองจำไว้ในคุกจนวันรุ่งขึ้น เพราะว่าเย็นแล้ว แต่คนเป็นอันมากที่ได้ฟังคำสอนนั้นก็เชื่อ จำนวนผู้ชายจึงเพิ่มขึ้นจนนับได้ประมาณห้าพันคน ครั้นรุ่งขึ้นพวกผู้ครอบครองกับพวกผู้ใหญ่ และพวกธรรมาจารย์ได้ประชุมกันในกรุงเยรูซาเล็ม ทั้งอันนาสมหาปุโรหิตและคายาฟาส ยอห์นอเล็กซานเดอร์ กับคนอื่นๆ ที่เป็นญาติของมหาปุโรหิตนั้นด้วย เมื่อเขาให้เปโตรและยอห์นยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขาแล้ว จึงถามว่า “ท่านทั้งสองได้ทำการนี้โดยฤทธิ์หรือในนามของผู้ใด”
คุณรู้จักชื่อเหล่านั้นหรือเปล่า เปโตรและยอห์นกำลังเผชิญหน้ากับอันนาสและคายาฟาสซึ่งเป็นคนแรกๆ ในการนำพระเยซูสู่การตรึงที่กางเขน และที่บ้านของอันนาสที่เปโตรปฏิเสธว่าท่านไม่รู้จักพระเยซูด้วยความหวาดกลัว ทั้งยอห์นและเปโตรมีเหตุผลอันควรที่จะกลัว
แต่ที่นั่นท่านก็ยังยืนหยัดสู้หน้ากับชายกลุ่มเดียวกันหลังจากสามเดือนผ่านไป และท่านพูดอย่างกล้าหาญ (ดู กิจการ 4:13) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเปโตรที่มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวก็กล่าวไว้ว่า “ก็ให้ท่านทั้งหลายกับบรรดาชนอิสราเอลทราบเถิดว่า โดยพระนามของพระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธ ซึ่งท่านทั้งหลายได้ตรึงไว้ที่กางเขน และซึ่งพระเจ้าได้ทรงโปรดให้คืนพระชนม์ โดยพระองค์นั้นแหละชายคนนี้ที่ยืนอยู่ต่อหน้าท่าน จึงได้หายโรคเป็นปกติ พระองค์เป็นศิลา ที่ท่านทั้งหลายผู้เป็นช่างก่อได้ทอดทิ้ง ซึ่งได้เป็นศิลามุมเอกแล้ว ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลย ด้วยว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้ ไม่ทรงโปรดให้มีในท่ามกลางมนุษย์ทั่วใต้ฟ้า” (กิจการ 4:10-12)
ความกล้าหาญนั้นมาจากไหน ก็มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ นี่ต้องใช้ฤทธิ์เดชของพระเจ้าให้เปลี่ยนคนขี้ขลาดให้เป็นคนที่กล้าเป็นพยานซึ่งพูดด้วยเสียงอันดังและเปรมปรีด์ว่าพระเยซูทรงเป็นพระเมสสิยาห์ พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงสิ้นพระชนม์และคืนพระชนม์อีกครั้งเพื่อช่วยกู้เราจากบาปของเรา โดยลำพังตัวของท่านเองแล้วไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้ แต่ด้วยพระวิญญาณของพระเยซูที่อยู่ในท่าน ท่านสามารถทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งเผชิญกับความตายโดยไม่มีความกลัว
ความช่วยเหลือแบบนั้นยังคงมีให้กับเราในทุกวันนี้ เพราะเราก็เผชิญหน้ากับความกลัวด้วยเช่นกัน นี่อาจไม่ใช่ความกลัวการข่มเหงทางศาสนา แม้ว่าการข่มเหงนั้นยังคงเกิดขึ้นอยู่ในโลกปัจจุบัน แต่ก็อาจมีบางอย่างที่น่ากลัวเช่นเดียวกันสำหรับเรา เช่น การตรวจพบว่ามีปัญหาทางสมอง การตกงานโดยไม่คาดคิด ความตายของคนที่เรารัก และความแตกร้าวแรกที่น่ากลัวในชีวิตสมรส
จากนั้น เราสามารถทำอย่างยอห์นและเปโตรทำ และวางใจในพระเจ้าผู้ทรงรักเราและทรงเข้ามาในโลกนี้เพื่อช่วยเรา เราสามารถร้องว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเราด้วยเถิด” พระเยซูจะทรงอุ้มชูเราขึ้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะพระองค์ทรงผ่านพ้นความทุกข์ยากมาแล้วด้วยพระองค์เอง พระเยซูผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเราทรงเผชิญหน้ากับความกลัวและทรงมีชัยเหนือสิ่งนั้น และพระองค์จะทรงแบกเราไปให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่น่ากลัวของเราด้วยเช่นกัน
เราอธิษฐาน: องค์พระผู้เป็นเจ้าที่รัก เมื่อข้าพระองค์หวาดกลัว ขอพระองค์ทรงอยู่ใกล้ข้าพระองค์และทรงแบกข้าพระองค์ไว้ให้ผ่านพ้นไปได้ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- เมื่อไหร่ที่คุณมีความกลัว คุณแสวงหาความช่วยเหลือจากที่ไหน เพราะอะไร
- คุณรู้ได้อย่างไรว่าพระเยซูทรงเข้าใจความกลัว
- ถ้าคุณยินดีก็ขอให้เล่าถึงเวลาที่พระเจ้าทรงช่วยเหลือคุณให้จัดการกับสิ่งที่คุณกลัว
© : Lutheran Hour Ministries
