กิจการ 1:3-4ก, 7ก, 8-11 – [หลังจากที่พระเยซูทรงคืนพระชนม์] ครั้นพระองค์ทรงทนทุกข์ทรมานแล้ว ได้ทรงแสดงพระองค์แก่คนพวกนั้นด้วยหลักฐานหลายอย่าง พิสูจน์ว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่ และได้ทรงปรากฏแก่เขาทั้งหลายระหว่างสี่สิบวัน และได้ทรงสนทนากับเขาถึงเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า เมื่อพระองค์ได้ทรงพำนักอยู่กับอัครทูต จึงกำชับเขามิให้ออกไปจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่ให้คอยรับตามพระสัญญาของพระบิดา … พระองค์ตรัสตอบเขาว่า … แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก” เมื่อพระองค์ตรัสเช่นนั้นแล้ว พระเจ้าก็ทรงรับพระองค์ขึ้นไปต่อหน้าต่อตาเขา และมีเมฆคลุมพระองค์ให้พ้นสายตาของเขา เมื่อเขากำลังเขม้นดูฟ้า เวลาที่พระองค์เสด็จขึ้นไปนั้น มีสองคนสวมเสื้อขาวมายืนอยู่ข้างๆ เขา สองคนนั้นกล่าวว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย เหตุไฉนท่านจึงเขม้นดูฟ้าสวรรค์ พระเยซูองค์นี้ซึ่งทรงรับไปจากท่านขึ้นไปยังสวรรค์นั้น จะเสด็จมาอีกเหมือนอย่างที่ท่านทั้งหลายได้เห็นพระองค์เสด็จไปยังสวรรค์นั้น”
วันเสด็จขึ้นสู่สวรรค์เป็นหนึ่งในวันหยุดซึ่งคริสเตียนจำนวนมากไม่เคยคิดถึง สำหรับคนที่เริ่มต้นถือเอาวันพฤหัสบดีซึ่งยากสำหรับคนทำงานหรือโรงเรียนที่จะมาร่วมกันเฉลิมฉลอง
แต่บางครั้งข้าพเจ้าคิดว่าเพราะความโง่เขลาของเราทำให้เราไม่เฉลิมฉลอง ทำไมการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระเยซูจึงมีความสำคัญ นี่เป็นแค่วิธีการของพระเจ้าในการจบเรื่องราวชีวิตที่มองเห็นได้บนโลกนี้ของพระเยซู หรือมีบางอย่างมากกว่าไปนี้
ข้าพเจ้าคิดว่ามีบางอย่างมากกว่านั้น เพราะสิ่งแรกที่ต้องสังเกตก็คือ การเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ไม่ใช่การทำลายการมารับสภาพมนุษย์ของพระเยซู พระเยซูทรงรักษาสภาพความเป็นมนุษย์ของพระองค์ไว้ รวมทั้งเนื้อหนัง โลหิต และกระดูกของพระองค์ พระองค์จะทรงรักษาไว้ตลอดไป และนั่นหมายความว่ามีมนุษย์อยู่ตรงศูนย์กลางจักรวาล ประทับอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้าพระบิดา เรามีเพื่อน และญาติ! ในที่สูง และเราสามารถร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ได้เมื่อเราต้องการความช่วยเหลือ โดยมั่นใจอย่างแน่นอนว่าพระองค์ทรงรักเราและจะทรงพูดแทนเรา
เพราะนั่นคืออีกความหมายหนึ่งของการเสด็จสู่สวรรค์ ตอนนี้พระเยซูทรงมีพลังและสิทธิอำนาจเหนือจักรวารรวมทั้งโลกของเราด้วย พระเจ้าพระบิดาทรงทำเรื่องนี้เพื่อให้พระเยซูทรงสามารถ “มอบชีวิตนิรันดร์แก่คนที่พระองค์ทรงมอบแก่พระบุตรนั้น และนี่แหละคือชีวิตนิรันดร์ คือที่เขารู้จักพระองค์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และรู้จักพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ทรงใช้มา” (ยอห์น 17:2ข-3) พระเยซูทรงมีสิทธิอำนาจนั้นเพื่ออวยพรเราด้วยชีวิตนิรันดร์ ชีวิตที่เต็มด้วยความชื่นชมยินดี ความรักและสันติสุข
ขณะที่เราดำเนินชีวิตในโลกที่มืดมนและแตกสลายนี้ เรามีความยินดีที่รู้ว่าพระเยซูทรงกำลังดูแลและห่วงใยเรา ขณะที่พระองค์อยู่บนโลก พระองค์ทรงสละพระชนม์ชีพของพระองค์เพื่อช่วยเราและนำเราจากความตายสู่ชีวิตนิรันดร์ และตอนนี้พระองค์ทรงคืนพระชนม์จากความตายและทรงปกครองในสวรรค์แล้ว พระองค์จะประทานของขวัญที่แสนวิเศษอะไรอีกแก่เราล่ะ
เราอธิษฐาน: องค์พระเยซูเจ้า ข้าพระองค์ดีใจที่พระองค์ทรงเฝ้าดูเราอยู่ ขอทรงให้เราอยู่อย่างปลอดภัยกับพระองค์จนกว่าจะถึงวันที่พระองค์เสด็จกลับมาในสง่าราศี อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- พระเยซูทรงมอบหมายงานให้เราทำก่อนที่พระองค์ทรงจากไป งานนั้นคืออะไร (ดู กิจการ 1:8 และมัทธิว 28:18-20.)
- งานนี้ยังเหลืออีกเท่าไหร่จึงจะสำเร็จ ขอให้ตรวจสอบโดยทางอินเทอร์เน็ต
- ของประทานอะไรที่พระองค์ทรงมอบให้เราเพื่อให้การแบ่งปันข่าวประเสริฐเกี่ยวกับพระเยซูเป็นไปได้ (ดู กิจการ 1:8.)
© : Lutheran Hour Ministries