ธรรมชีวิตประจำวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2025​ “จิตใจของข้าเอ๋ย จงตื่นขึ้นด้วยความยินดี”

“โลกต่อสู้ข้าฯ อย่างโหมกระหน่ำ ความโกรธแค้นของโลกข้าฯ ดูหมิ่น แม้โลกจะทำสงครามอย่างรุนแรง แต่การงานของโลกก็ไร้ประโยชน์ จิตใจของข้าฯ เป็นไทจากความกังวล ไม่มีปัญหาใดรบกวนข้าฯ แม้บัดนี้ความยากเข็ญปรากฏขึ้น แต่ค่ำคืนก็สดใสเหมือนกลางวัน
“บัดนี้ข้าฯ จะยึดพระคริสต์ไว้ให้ตลอด พระผู้ช่วยให้รอดที่แท้จริงของข้าฯ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าฯ จะไม่มีวันทิ้งข้าฯ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่พระองค์เสด็จผ่าน พระองค์ทรงทำให้โซ่ตรวนเหล็กของความตายฉีกขาด พระองค์ทรงตีฝ่าความบาปและความทุกข์ พระองค์ทรงทำให้อำนาจโหดเหี้ยมของการทำให้เป็นทาสของนรกแตกป่นปี้ ข้าฯ ติดตามพระองค์ผ่านทุกอย่างไป”

ในเพลงบทนี้มีถ้อยคำและวลีที่ไม่น่าฟัง (แม้กระทั่งน่ากลัว) อยู่หลายคำ ซึ่งเป็นคำบรรยายจากรายงานข่าวที่เราคุ้นเคยหรือจากประสบการณ์ของเราเอง เราร้องเพลงเกี่ยวกับความโกรธแค้นที่โหมกระหน่ำของโลก สงครามที่รุนแรง ความยากเข็ญ ปัญหา ความบาป ความทุกข์ และ “อำนาจโหดเหี้ยมของการทำให้เป็นทาสของนรก” ข้อความเหล่านี้ปรากฏอยู่ในบทเพลงสรรเสริญได้อย่างไร ถ้อยคำเหล่านี้ไม่มีความยินดีของอีสเตอร์อยู่มากนัก แต่ตามเนื้อเพลงนี้มีบางสิ่งเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนที่วางใจในพระเยซูตอบสนองด้วยวิธีการใหม่อันน่าประหลาดต่อถ้อยคำและสถานการณ์ที่น่ากลัวเหล่านี้

เกิดอะไรขึ้น พระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นจากความตาย เหตุการณ์ที่เปลี่ยนโลกเหตุการณ์นั้นเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างแบบกลับตาลปัตร สถานการณ์น่าสยดสยองที่บรรยายไว้ในบทเพลงนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเรา เรายังรู้จักและมีประสบการณ์กับความยากเข็ญ ปัญหา และความโกรธแค้นของโลกในขณะที่โลกต่อสู้กับผู้คนที่ติดตามพระเยซู แต่บัดนี้เราเห็นและมีประสบการณ์กับสิ่งเหล่านั้นผ่านความหวังที่เป็นของเราเพราะการเป็นขึ้นมาของพระเยซู เรามองดูความโกรธแค้นของโลกอย่างดูหมิ่นเพราะความโกรธเคืองของโลกจะไม่มีวันแยกเราจากความรักของพระเยซูได้ ในท่ามกลางปัญหาและความยากเข็ญ จิตใจและความคิดของเราเต็มล้นด้วยสันติสุขที่โลกไม่สามารถให้ได้ เป็นสันติสุขที่ขึ้นอยู่กับพระเยซูคริสต์เท่านั้นเสมอ อำนาจที่ทำให้ตกเป็นทาสของความบาป ความตาย และนรกถูกทำลายจนป่นปี้โดยพระผู้ช่วยให้รอดที่เป็นขึ้นมา พระองค์ทรงตีฝ่าความทุกข์และความตายและภาระอันหนักหน่วงของความบาปที่พระองค์ทรงแบกไว้ในพระกายของพระองค์บนกางเขน เหมือนที่พระเยซูตรัสว่า “ใน​โลก​นี้​ท่าน​จะ​ประสบ​ความ​ทุกข์​ยาก แต่​จง​ชื่น​ใจ​เถิด เพราะ​ว่า​เรา​ได้​ชนะ​โลก​แล้ว” (ยอห์น 16:33ข) แล้วเราจะทำอะไรในตอนนี้ “ข้าฯ ติดตามพระองค์ผ่านทุกอย่างไป”

เมื่อพบกับการข่มเหงและการถูกจองจำเพราะท่านติดตามพระเยซู อัครทูตเปาโลเขียนไว้ว่า “เหตุ​ฉะนั้น​เพราะ​เห็น​แก่​พระ​คริสต์​ ข้าพเจ้า​จึง​ชื่น​ใจ​ใน​บรรดา​ความ​อ่อนแอ​ของ​ข้าพเจ้า ใน​การ​ประทุษร้าย​ต่างๆ ใน​ความ​ยาก​ลำบาก ใน​การ​ถูก​ข่ม​เหง ใน​ความ​อับ​จน เพราะ​ว่า​ข้าพเจ้า​อ่อนแอ​เมื่อ​ใด ข้าพเจ้า​ก็​จะ​แข็งแรง​มาก​เมื่อ​นั้น​” (2 โครินธ์ 12:10) คำว่า “ข้าพเจ้าจึงชื่นใจ” สามารถแปลได้อีกว่า “ข้าพเจ้าดีใจ” หรือ “ข้าพเจ้าพอใจ” เปาโลคงเข้าใจความเชื่อที่กล่าวไว้ในถ้อยคำของบทเพลงนี้ที่ว่า “จิตใจของข้าฯ เป็นไทจากความกังวล ไม่มีปัญหาใดรบกวนข้าฯ” พระเยซูทรงสัญญาว่าพระองค์จะไม่มีวันละทิ้งเรา ในความทุกข์ระทมและปัญหาที่เราต้องสู้ทน (แม้กระทั่งความตาย) เราจะยึดมั่นอยู่กับความเชื่อในพระเยซู เราดีใจ เราพอใจ เราชื่นใจที่จะติดตามพระองค์ผ่านทุกอย่างไป

เราอธิษฐาน: พระเยซู ในวันแห่งปัญหาและในทุกๆ วัน ข้าพระองค์จะยึดมั่นอยู่กับพระองค์ด้วยความเชื่อ อาเมน

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
1.ปกติคุณมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อคุณกลัว
2.เปาโลชื่นใจได้อย่างไรในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
3.เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระเยซูอยู่กับเราเมื่อเรากลัว

© : Lutheran Hour Ministries

Comments are closed.