ธรรมชีวิตประจำวันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2025 “ภาพของคนรัก”

สุภาษิต 8:1, 4, 22, 27-31 – ปัญญามิได้ร้องเรียกหรือ ความเข้าใจมิได้เปล่งเสียงหรือ … โอ บรรดาผู้ชายเอ๋ย เราเรียกเจ้าและเสียงเรียกของเราไปถึงบุตรชายของมนุษย์ … พระเจ้าได้ประทานกำเนิดแก่เราแล้วเมื่อพระองค์ทรงเริ่มงานของพระองค์ คือเป็นสิ่งแรกในบรรดาพระราชกิจโบราณของพระองค์ … เมื่อพระองค์ทรงสถาปนาฟ้าสวรรค์เราอยู่ที่นั่นแล้ว เมื่อพระองค์ทรงลากเส้นรอบวงบนพื้นมหาสมุทร เมื่อทรงกระทำฟ้าเบื้องบนให้มั่นไว้ เมื่อพระองค์ทรงสถาปนาน้ำพุของน้ำบาดาล เมื่อพระองค์ทรงกำหนดเขตจำกัดให้แก่ทะเล เพื่อว่าน้ำจะไม่ละเมิดพระบัญชาของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงปักผังรากฐานของพิภพ เราอยู่ข้างพระองค์แล้ว เหมือนอย่างนายช่าง เราเป็นความปีติยินดีประจำวันของพระองค์ เปรมปรีดิ์อยู่ต่อพระพักตร์พระองค์เสมอ เปรมปรีดิ์ในพิภพที่มีคนอาศัยของพระองค์ และปีติยินดีในบุตรชายของมนุษย์

คุณเคยดูภาพเก่าๆ ที่ไม่ได้เขียนบอกอะไรไว้ และพยายามคิดว่าใครที่อยู่ในภาพนั้นหรือไม่ เมื่อคุณรู้แล้ว แต่ตอนนี้คุณดูที่เสื้อผ้า ใบหน้า ทรงผม และพยายามนึกย้อนไปถึงลักษณะของเขา นี่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนใช่ไหม เป็นลูกพี่ลูกน้องหรือไม่ เป็นคนรักเก่าที่หน้าตาคุ้นๆ มากใช่ไหม

บทนี้ของสุภาษิตทำให้เรางงเหมือนกัน ตอนนี้บรรยายถึงใครบางคนที่ดูเหมือนคุ้นเคยกับเรา หากเราเข้าใจความเป็นพระองค์ พระปัญญานี้คือใครที่บทกวีกำลังกล่าวถึง

หลายคนคิดว่านี่คือคำอธิบายเชิงกวีเกี่ยวกับพระเยซู เขากล่าวเช่นนี้โดยอ้างอิงจากบทกวีที่กล่าวถึงพระปัญญาที่ “เกิดขึ้น” ก่อนการทรงสร้างทั้งหมด ซึ่งฟังดูคล้ายกับพระเยซู พระบุตรองค์เดียวของพระบิดา ซึ่งไม่ได้ถูกสร้างหรือสร้างขึ้นมาเหมือนอย่างเรา เขากล่าวเช่นกันว่าเพราะพระเยซูทรงได้รับการทรงเรียกว่า “พระปัญญาของพระเจ้า” ใน 1 โครินธ์ 1 ซึ่งเปาโลพูดว่า “แต่พวกเราประกาศเรื่องพระคริสต์ผู้ทรงถูกตรึงที่กางเขนนั้น อันเป็นสิ่งที่ให้พวกยิวสะดุด และให้พวกต่างชาติถือว่าเป็นเรื่องโง่ แต่สำหรับผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกนั้น ทั้งพวกยิวและพวกกรีก ต่างถือว่าพระคริสต์ทรงเป็นฤทธานุภาพและพระปัญญาของพระเจ้า” (1 โครินธ์ 1:23-24)

มีเหตุผลอื่นที่ฟังดูเหมือนเป็นพระเยซู พระปัญญาทรงอยู่ที่นั่นในระหว่างการทรงสร้าง “เหมือนอย่างนายช่าง เราเป็นความปีติยินดีประจำวันของพระองค์” (สุภาษิต 8:30ข) นั่นเหมือนกับบทที่หนึ่งของหนังสือยอห์นใช่ไหม พระองค์ทรงบอกเราว่า “ในปฐมกาลพระวาทะดำรงอยู่ และพระวาทะทรงสถิตอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า … พระเจ้าทรงสร้างสิ่งทั้งปวงขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นมานั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่ได้เป็นมานอกเหนือพระวาทะ” (ยอห์น 1:1, 3)

พระปัญญากล่าวด้วยเช่นกันว่า “เราเป็นความปีติยินดีประจำวันของพระองค์ เปรมปรีดิ์อยู่ต่อพระพักตร์พระองค์เสมอ เปรมปรีดิ์ในพิภพที่มีคนอาศัยของพระองค์ และปีติยินดีในบุตรชายของมนุษย์” (สุภาษิต 8:30ข-31)

ตอนนี้ดูเหมือนเป็นพระเยซูจริงๆ ด้วย เพราะพระเจ้าพระบิดาทรงรักพระบุตรของพระองค์ และทรงปีติยินดีในพระองค์ทุกวัน เรารู้จากพระดำรัสของพระองค์เมื่อพระเยซูทรงรับบัพติศมาและพระเจ้าพระบิดาตรัสว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก” (มัทธิว 3:17ข) และเรารู้ดีว่าพระเยซูทรงปีติยินดีในเราซึ่งเป็นผู้คนที่พระเจ้าทรงสร้างมากเพียงใด ไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่กว่าความรักของพระองค์ เพราะเมื่อเราหันไปจากพระเจ้า พระเยซูทรงเจ็บปวด สิ้นพระชนม์ และคืนพระชนม์เพื่อยกโทษบาปของเรา และทรงนำเรากลับไปบ้านไปหาพระเจ้าอีกครั้ง

เราอธิษฐาน: พระผู้ช่วยให้รอดที่รัก นี่คือภาพของพระองค์หรือ เพราะเหมือนพระองค์แน่แท้ ขอทรงให้ข้าพระองค์รักพระองค์สุดหัวใจของข้าพระองค์อยู่เสมอเถิด อาเมน

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:

  1. คุณมีรูปถ่ายเก่าๆ ที่ไม่สามารถระบุตัวคนได้เลยหรือไม่
  2. คุณรู้ได้อย่างไรว่าคนเหล่านั้นเป็นใครบ้าง
  3. ถ้ามีใครขอให้คุณบอกลักษณะของพระเยซู คุณใช้คำหรือวลีใดเพื่อบรรยายถึงพระองค์

© : Lutheran Hour Ministries

Comments are closed.