2 เธสะโลนิกา 1:1-4, 11-12 – เปาโล สิลวานัส และทิโมธี เรียน คริสตจักรของชาวเมืองเธสะโลนิกา ในพระบิดาเจ้าของเราและพระเยซูคริสตเจ้า ขอให้พระคุณและสันติสุขจากพระบิดาเจ้า และจากพระเยซูคริสตเจ้าดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย เราต้องขอบพระคุณพระเจ้าเพราะท่านทั้งหลายอยู่เสมอ และเป็นการสมควรเพราะความเชื่อของท่านก็จำเริญยิ่งขึ้น และความรักของท่านทุกคนที่มีต่อกันทวีขึ้นมากด้วย ฉะนั้น เราเองจึงอวดท่านทั้งหลายต่อบรรดาคริสตจักรของพระเจ้าในเรื่องความทรหด และความเชื่อของท่านในยามที่ท่านถูกข่มเหงนานาประการ และที่ท่านอดทนต่อความยากลำบากนั้น … เหตุฉะนั้น เราจึงอธิษฐานเพื่อท่านทั้งหลายเสมอ ขอให้พระเจ้าของเราทรงโปรดให้ท่านเป็นผู้ที่สมควรแก่การที่พระองค์ได้ทรงเรียกนั้น และทรงบันดาลด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ให้ความตั้งใจดีทุกประการ และกิจการแห่งความเชื่อทุกอย่างสำเร็จ เพื่อพระนามของพระเยซูเจ้าของเราจะได้เกียรติเพราะท่านทั้งหลาย และท่านจะได้รับเกียรติเพราะพระองค์ ตามพระคุณแห่งพระเจ้าของเรา และแห่งพระเยซูคริสตเจ้า
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกขบขันเมื่ออ่านจดหมายของเปาโลคือ วิธีที่ท่านพูดถึงความทุกข์ทรมาน ในข้อพระคัมภีร์ประจำวันนี้ ท่านสรรเสริญชาวเธสะโลนิกาที่เติบโตในความเชื่อและความรัก และเพราะเขามั่นคงแม้ต้องทนทุกข์ทรมาน ดูเหมือนว่าท่านมองว่าความทุกข์ทรมานเป็นสภาวะปกติของคริสตจักร!
และข้าพเจ้าคิดว่าคงเป็นเช่นนั้น เพราะเราไม่ได้อยู่ในโลกนี้ ดังที่พระเยซูตรัสไว้เมื่อทรงอธิษฐานเพื่อเราทุกคนในคืนก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ว่า “ข้าพระองค์ได้มอบพระดำรัสของพระองค์ให้แก่เขาแล้ว และโลกนี้ได้เกลียดชังเขา เพราะเขาไม่ใช่ของโลก เหมือนดังที่ข้าพระองค์ไม่ใช่ของโลก ข้าพระองค์ไม่ได้ขอให้พระองค์เอาเขาออกไปจากโลก แต่ขอปกป้องเขาไว้ให้พ้นจากมารร้าย” (ยอห์น 17:14-15)
พระเยซูเองก็ทรงคาดหวังให้เราทนทุกข์เช่นกัน หากเราเป็นของพระองค์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์สถิตอยู่ในเรา เราย่อมไม่เข้ากับโลกที่มืดมนและคดโกงรอบตัวเราอย่างแน่นอน! เราจะสวนกระแสด้วยการพูดความจริง ห่วงใยคนยากจน และแม้กระทั่งแสดงความเมตตาต่อศัตรูของเรา เพราะนั่นคือ สิ่งที่พระเยซูทรงทำและทำอยู่ แม้กระทั่งการสละพระชนม์ชีพของพระองค์บนไม้กางเขนเพื่อช่วยศัตรูของพระองค์ให้พ้นจากอำนาจของความชั่วร้าย และเปลี่ยนเขาให้เป็นบุตรที่รักของพระเจ้า บัดนี้พระองค์ทรงคืนพระชนม์จากความตายและพระชนม์ชีพของพระองค์สถิตอยู่ในเรา เราเริ่มเดินบนเส้นทางเดียวกันกับที่พระองค์ทรงทำ และแม้ว่าจะมีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ชื่นชมสิ่งแบบนี้ แต่จะมีอีกมากที่รู้สึกถูกคุกคามจากสิ่งนี้
ความทุกข์ทรมานอาจมีตั้งแต่ขั้นสุดโต่งของการถูกจำคุกและความตาย ไปจนถึงการกลั่นแกล้งเล็กๆ น้อยๆ และการถูกกีดกัน สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีกฎหมายชั่วร้าย อาจหมายถึงการจ่ายค่าปรับหรือการถูกจำคุก เพราะพระคริสต์ทรงบัญชาให้เรารักเพื่อนบ้าน และเมื่อการดูแลพวกเขากลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เราจะต้องทนทุกข์ทรมาน นั่นไม่สนุกเลย และไม่มีใครชอบ แต่พระเยซูทรงสัญญากับเราว่า “ท่านทั้งหลายจะเป็นสุข เมื่อคนทั้งหลายจะเกลียดชังท่าน และจะไล่ท่านออกจากพวกเขา และจะประณามท่าน และจะเหยียดชื่อของท่านว่าเป็นคนชั่วช้า เพราะท่านเห็นแก่บุตรมนุษย์ ในวันนั้นท่านทั้งหลายจงชื่นชม และเต้นโลดด้วยความยินดีเพราะ ดูเถิด บำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์” (ลูกา 6:22-23ก)
เราอธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ไม่อยากทนทุกข์ แต่หากความทุกข์มาถึงข้าพระองค์ ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์ทนรับได้เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระองค์ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- คุณเคยสูญเสียสิ่งใดไปบ้างเพื่อพระเยซู ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน งาน หรือโอกาสต่างๆ
- ถ้าเคย คุณคิดว่าคุ้มค่าหรือไม่
- ความทุกข์ทรมานส่งผลอย่างไรต่อความเชื่อและความรักที่เรามีต่อพระเยซู
© : Lutheran Hour Ministries

