“ยามเย็นสีทองส่องเรืองรองในทิศตะวันตก อีกไม่นาน อีกไม่นานนักรบผู้ซื่อสัตย์จะมาสู่การหยุดพัก สิ่งที่งดงามคือความสงบของเมืองบรมสุขเกษมอันแสนสุข ฮาเลลูยา ฮาเลลูยา
“แต่ ที่น่าอัศจรรย์ใจคือวันใหม่อันรุ่งเรืองยิ่งกว่าได้เริ่มต้นขึ้นที่นั่น เหล่าธรรมิกชนลุกขึ้นอย่างผู้ชนะในแนวรบที่สดใส จอมกษัตริย์แห่งสง่าราศีเสด็จไปตามพระมรรคาของพระองค์ ฮาเลลูยา ฮาเลลูยา
“จากเขตแดนอันกว้างใหญ่ของแผ่นดินโลก จากชายฝั่งอันยาวไกลที่สุดของมหาสมุทร ผ่านประตูไข่มุกต่างๆ เหล่าพลโยธาเหลือคณานับเดินผ่านไปไหลหลั่งดั่งลำธารพร้อมกับร้องสรรเสริญพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ฮาเลลูยา ฮาเลลูยา”
แม้อาจเป็นการยากที่จะรู้ว่าควรพูดสิ่งใด ผู้คนที่เข้าร่วมในพิธีศพหรือพิธีไว้อาลัยมักจะแสดงความเห็นอกเห็นใจด้วยถ้อยคำต่างๆ เช่น “เรารู้ว่าเขาอยู่ในสวรรค์กับพระเยซูแล้ว” หรือ “ตอนนี้เธอเป็นอิสระจากความเจ็บปวดแล้ว” ผู้คนที่เสียชีวิตเหล่านั้นอาจเป็นที่จดจำสำหรับความรักและการรับใช้ของเขาและความเชื่อของเขาในพระคริสต์ บางครั้งเราอาจได้ยินคำอธิบายเกี่ยวกับคนเหล่านั้นว่าเป็น “นักรบผู้ซื่อสัตย์” กระนั้น นั่นคือ วิธีการที่บทเพลงของเราอธิบายถึงคนเหล่านั้นที่ล่วงหลับไปในพระเยซู คนเหล่านั้นคือ นักรบผู้ซื่อสัตย์ที่องค์พระผู้เจ้าเป็นทรงเรียกเขามาจาก “คริสตจักรที่อยู่ในสงคราม” คริสตจักรที่กำลังต่อสู้ เพื่อเข้าสู่ “คริสตจักรที่มีชัยชนะ” ซึ่งได้แก่ คริสตจักรที่อยู่ในสง่าราศี
สำหรับทหารของพระคริสต์ผู้จงรักภักดีเหล่านี้วันเวลาของเขาสำหรับการทำสงครามบนโลกนี้กับความบาปและซาตานได้สิ้นสุดลงแล้ว สำหรับเขา “ยามเย็นสีทอง” มาถึงแล้วและเขามีความสุขอยู่ในเมืองบรมสุขเกษมที่งดงามและสงบสุขต่อหน้าพระพักตร์ของพระเยซู เหมือนที่บทเพลงของเราข้ออื่นเตือนเราให้ระลึกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าของเขาทรงอยู่กับเขาเสมอในฐานะ “แม่ทัพ” ของเขาในการต่อสู้ แต่บัดนี้เขาอยู่ในสง่าราศีแห่งพระพักตร์นิรันดร์ของพระองค์ ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ นักรบเหล่านี้ยังคงจงรักภักดีในความเชื่อที่เขาได้รับบัพติศมาเข้าสู่ความเชื่อนี้ เขาเชื่อวางใจในพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงสละชีวิตของพระองค์และทรงเป็นขึ้นมาจากความตายเพื่อช่วยเขาให้รอด บัดนี้เขาชื่นชมอยู่ในชัยชนะของพระองค์ แต่นี่ไม่ใช่ตอนจบของเรื่องนี้ บทเพลงของเราประกาศว่าจะมีอีกหลายอย่างเกิดขึ้น (กับเขาและกับเรา) “แต่ ที่น่าอัศจรรย์ใจ คือวันใหม่อันรุ่งเรืองยิ่งกว่าได้เริ่มต้นขึ้นที่นั่น”
เหล่าทหารแห่งกองกำลังติดอาวุธของประเทศหนึ่งจะลุกขึ้นและยืนระวังเมื่อผู้บังคับบัญชาเข้ามาในห้อง บทเพลงของเราอธิบายถึงบางสิ่งคล้ายคลึงกันเกี่ยวกับนักรบผู้ซื่อสัตย์ที่เสียชีวิตไป เมื่อพระเยซูเสด็จกลับมาในวันสุดท้าย เหล่าผู้เชื่อที่ล่วงหลับไปในความเชื่อในพระองค์จะเป็นขึ้นมาจากความตาย จิตวิญญาณและร่างกายจะรวมตัวกันอีก เพื่อต้อนรับจอมกษัตริย์ของเขา นักรบผู้สัตย์ซื่อจะเป็นขึ้น “ในแนวรบที่สดใส” ของกายอมตะที่มีสง่าราศีโดยสวมเสื้อแห่งความชอบธรรมอันรุ่งเรืองของพระเยซูคริสต์ พลโยธาจำนวนนับไม่ถ้วน (ผู้เชื่อที่ซื่อสัตย์ของทุกยุคสมัยและทุกแห่งหน) จะหลั่งไหลเข้ามาเหมือนกองทัพที่มีชัยชนะเพื่อเข้ามาอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของพระเจ้า ในฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ เราจะสรรเสริญพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าตรีเอกาผู้ทรงสร้างเรา ทรงไถ่เรา และทรงรักษาเราไว้ในความเชื่อแท้แต่หนึ่งเดียว ในวันอันรุ่งเรืองยิ่งกว่านั้นเราจะสานต่อคำสรรเสริญที่เรากำลังร้องอยู่ในวันนี้ นั่นคือ ฮาเลลูยา ฮาเลลูยา
เราอธิษฐาน: พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้ทำตามแบบอย่างของนักรบผู้ซื่อสัตย์ ผู้ซึ่งอยู่ในเมืองบรมสุขเกษมอันแสนสุขในเวลานี้ด้วยเถิด อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- ความเป็นจริงเรื่องความตายของเรามีเพิ่มมากขึ้นเมื่อเราแก่ชรา มุมมองของคุณเรื่องความตายเปลี่ยนหรือไม่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป
- คำว่า “คริสตจักรที่อยู่ในสงคราม” กับ “คริสตจักรที่มีชัยชนะ” มีความหมายต่างกันอย่างไร
- เหตุใดความตายจึงเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องกลัว (ดู โรม 6:23; อิสยาห์ 25:8; ยอห์น 3:16; และ 2 โครินธ์ 5:17 สำหรับความเล้าโลมใจที่เรามีในชัยชนะนิรันดร์ของพระเยซูคริสต์)
© : Lutheran Hour Ministries

