มาลาคี 3:13-17ก – “พระเจ้าตรัสว่า ‘ถ้อยคำของเจ้านั้นใส่ร้ายเรา’ เจ้ายังกล่าวว่า ‘เราทั้งหลายได้กล่าวใส่ร้ายพระองค์สถานใด’ เจ้าได้กล่าวว่า ‘ที่จะปรนนิบัติพระเจ้าก็เปล่าประโยชน์ ที่เราจะรักษาพระดำรัสสั่งของพระองค์ หรือดำเนินอย่างคนไว้ทุกข์ต่อพระพักตร์พระเจ้าจอมโยธานั้นจะได้ผลดีอันใด บัดนี้เราถือว่าคนอวดดีเป็นคนได้รับพร เออ คนที่ประกอบการอธรรม ใช่ว่าจะมั่งคั่งเท่านั้น แต่เมื่อเขาได้ทดลองพระเจ้าแล้วก็ปลอดภัยไป’” แล้วคนเหล่านั้นที่เกรงกลัวพระเจ้าจึงพูดกันและกัน พระเจ้าทรงฟังและทรงได้ยิน และมีหนังสือม้วนหนึ่งสำหรับบันทึกความจำหน้าพระพักตร์ ได้บันทึกชื่อผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้าและที่ตรึกตรองในพระนามของพระองค์ไว้ พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า “เขาทั้งหลายจะเป็นคนของเรา เป็นกรรมสิทธิ์พิเศษของเรา”
คุณได้ยินความเจ็บปวดในพระสุรเสียงของพระเจ้าไหม พระองค์ตรัสว่า “ถ้อยคำของเจ้านั้นใส่ร้ายเรา” จริงๆ แล้ว คนส่วนใหญ่ที่ข้าพเจ้ารู้จักไม่เคยคิดเลยว่าพระเจ้าจะทรงสังเกตเห็นสิ่งที่พวกเขาพูดถึงพระองค์ ไม่ต้องพูดถึงความห่วงใยเลย พวกเขาคิดว่าตัวเองเล็กเกินกว่าที่พระเจ้าจะทรงใส่พระทัย
แต่นั่นไม่จริงเลย พระองค์ทรงห่วงใย พระองค์ทรงสร้างเราเพื่อทรงรักเรา และแม้ว่ามนุษยชาติจะกบฏต่อพระองค์ แต่พระองค์ก็ยังทรงรักเรา เรามีความสำคัญต่อพระองค์
แต่นั่นก็ไม่ได้ผลเสมอไป จริงไหม ลองฟังคำพูดของคนที่ถูกเรียกว่าเป็นประชากรของพระเจ้ากล่าวตอบพระองค์ว่า “ที่จะปรนนิบัติพระเจ้าก็เปล่าประโยชน์ ที่เราจะรักษาพระดำรัสสั่งของพระองค์ … จะได้ผลดีอันใด” พวกเขามองว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพระเจ้าเป็นเพียงธุรกรรมทางธุรกิจ หากพวกเขาไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ ที่เห็นชัดเจน ก็เป็นการเสียเวลา
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนี้ มาลาคีกล่าวว่า “แล้วคนเหล่านั้นที่เกรงกลัวพระเจ้าจึงพูดกันและกัน … ผู้ที่ … ตรึกตรองในพระนามของพระองค์” คนเหล่านี้คือใคร คือผู้ที่เรียนรู้ที่จะรักพระองค์ ผู้ที่ยินดีในพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเขา และพระเจ้าทรงเป็นสุข พระองค์ทรงจดชื่อของพวกเขาไว้ในสมุดบันทึกความทรงจำ “เขาทั้งหลายจะเป็นคนของเรา” พระองค์ตรัส
นี่เป็นวิธีที่แตกต่างในความสัมพันธ์กับพระเจ้า และเปิดกว้างสำหรับเราทุกคน เป็นความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรัก การให้อภัย และการปกป้อง พระเจ้าเสด็จมาในโลกนี้ในฐานะพระเยซู พระผู้ช่วยให้รอดของเรา เพื่อทรงทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้สำหรับเรา แม้กระทั่งคุณ แม้กระทั่งข้าพเจ้า แม้เราจะเล็กน้อยและเปราะบางเพียงใด เรามีความสำคัญต่อพระองค์ ดังนั้น พระองค์จึงทรงสละพระชนม์ชีพบนไม้กางเขนเพื่อช่วยเราให้พ้นจากอำนาจของความตายและความชั่วร้าย เพื่อนำเรากลับมาหาพระองค์ในฐานะบุตรที่รักยิ่งของพระองค์ และพระองค์ทรงคืนพระชนม์จากความตายเพื่อเราจะมีชีวิตนิรันดร์ โดยวางใจในพระองค์
บัดนี้พระเยซูทรงเรียกเรามาหาพระองค์ พระองค์ตรัสว่า “สารพัดที่พระบิดาทรงประทานแก่เรา จะมาสู่เรา และผู้ที่มาหาเรา เราก็จะไม่ทิ้งเขาเลย” (ยอห์น 6:37) พระเจ้าตรัสว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราได้เรียกเจ้าตามชื่อ เจ้าเป็นของเรา” (อิสยาห์ 43:1ข) บาปและความแตกสลายของเราจะไม่หยุดยั้งพระเจ้าจากการชื่นชมยินดีในตัวเราในฐานะที่เป็นคนของพระองค์ พระองค์ตรัสว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าอยู่ท่ามกลางเจ้า เป็นนักรบผู้ประทานความมีชัย พระองค์ทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดี พระองค์จะทรงรื้อฟื้นเจ้าใหม่ด้วยความรักของพระองค์ พระองค์จะทรงเริงโลดเพราะเจ้าด้วยร้องเพลงเสียงดัง” (เศฟันยาห์ 3:17)
เราอธิษฐาน: พระเจ้าที่รัก ข้าพระองค์รักพระองค์ โปรดทรงช่วยให้ข้าพระองค์เข้าใจและเชื่อมั่นอย่างแท้จริงว่าพระองค์ทรงรักข้าพระองค์อย่างไร อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- คุณเคยรู้สึกว่าตัวเองเล็กเกินกว่าที่พระเจ้าจะสังเกตเห็นไหม
- แล้วความรักที่พระองค์ทรงมีต่อคุณล่ะ เชื่อง่ายหรือเชื่อยาก เพราะอะไร
- ลองพิจารณาคำพูดและการกระทำของพระเยซู สิ่งเหล่านี้บอกอะไรคุณเกี่ยวกับความรู้สึกที่พระเจ้าทรงมีต่อคุณ
© : Lutheran Hour Ministries

