ธรรมชีวิตประจำวันพุธที่ 14 สิงหาคม 2024 “การยอมกัน”
เอเฟซัส 5:8ข-10, 18ข, 20-21 – จงดำเนินชีวิตอย่างลูกผของความสว่าง (ด้วยว่าผลของความสว่างนั้น คือความดีทุกอย่างและความชอบธรรมทั้งมวลและความจริงทั้งสิ้น) ท่านจงพิสูจน์ดูว่า ทำประการใดจึงจะเป็นที่ชอบพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า … จงประกอบด้วยพระวิญญาณ … จงขอบพระคุณพระเจ้าคือพระบิดาสำหรับสิ่งสารพัดเสมอ ในพระนามของพระเยซูคริสตเจ้าของเรา จงยอมฟังกันและกันด้วยความเคารพในพระคริสต์
การยอมกันเป็นคำที่ไม่ดีในวัฒนธรรมตะวันตกยุคนี้ เราคิดว่านั่นเป็นเหมือนกับพรมเช็ดเท้าที่ประตูที่ยอมให้ใครๆ เดินเหยียบไปมา และเมื่อเปาโลบอกเราให้ยอม “ฟังกันและกันด้วยความเคารพในพระคริสต์” หลายคนก็หลบเลี่ยงไป “นั่นไม่ปกติรึเปล่า” เขาถาม
คำตอบคือ ไม่ใช่ ถ้าเราเข้าใจสิ่งที่เปาโลกำลังขอร้องเราให้ทำที่นี่ ท่านไม่ได้กำลังพูดว่าเราต้องอ่อนแอและยอมให้คนอื่นปฏิบัติต่อเราอย่างไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ ไม่ใช่ สิ่งที่เปาโลต้องการให้เราทำต้องใช้พลังและสติปัญญาอย่างมาก ท่านกำลังพูดว่าเราควร “มีน้ำใจต่อกันเหมือนอย่างที่มีในพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงสภาพของพระเจ้า แต่มิได้ทรงถือว่าการเท่าเทียมกับพระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่จะต้องยึดถือ แต่ได้กลับทรงสละ และทรงรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์” (ฟีลิปปี 2:5-7)
พระเยซูทรงเป็นพระเจ้าสูงสุด และไม่มีผู้ใดสามารถทำให้พระองค์ทรงยอมต่อสิ่งใดๆ ที่พระองค์ไม่ทรงเลือกได้ ดังนั้น อะไรคือสิ่งที่พระองค์ทรงทำด้วยความมีอิสระและอำนาจของพระองค์ พระองค์ทรงมารับสภาพมนุษย์เหมือนเราแทนที่จะทรงเต็มด้วยสง่าราศีที่เปล่งประกายอย่างน่าเกรงขามและไม่สามารถสัมผัสได้ พระองค์ทรงถ่อมพระองค์เองลงถึงจุดที่ผู้คนรู้สึกปลอดภัยที่จะติดต่อกับพระองค์ แม้กระทั่งโต้เถียงกับพระองค์ และดังนั้น เขาจึงยอมให้พระองค์ทรงใกล้ชิดเขา และเขามาถึงความเชื่อ พระเยซูทรงเห็นความจำเป็นของเรา ที่เราแตกหัก มีบาป และถูกพิพากษาให้ตายฝ่ายวิญญาณ แล้วพระองค์ทรงช่วยเราจากทุกสิ่งเหล่านั้น พระองค์ทรงให้พระองค์เองสิ้นพระชนม์ แม้กระทั่งทรงยอมสิ้นพระชนม์บนกางเขน เพื่อว่าพระองค์จะทรงสามารถรักษาเราและยกโทษให้เรา รวมถึงทรงมอบชีวิตนิรันดร์ให้แก่เรา พระเยซูทรงยอมมอบพระองค์เองและยอมทำทุกอย่างเหล่านี้ เพราะอะไร เพราะพระองค์ทรงรักเรานั่นเอง
ดังนั้น เราด้วยเช่นกันที่สามารถยอมรับว่าเราเป็นบุตรที่มีค่าของพระเจ้าซึ่งมีของประทานมากมายและพลังอำนาจ ทั้งยังมีอิสระในการเลือกที่จะวางสิ่งเหล่านั้นลงเมื่อเราเห็นเพื่อนมนุษย์กำลังต้องการความเอาใจใส่จากเรา นั่นหมายถึงว่าเมื่อมีการโต้เถียงเกี่ยวกับอะไรบางอย่างที่ไม่มีความสำคัญจริงๆ บางอย่างที่พระเจ้าไม่ได้ทรงสั่งหรือให้คำแนะนำแต่อย่างใดเราสามารถพูดกับตัวเราเองว่า “ไม่เป็นไร เธอลงทุนจริงๆ ในการจัดซื้อพรมของคริสตจักรในสีที่ควรเป็น และข้าพเจ้าคิดว่าสีนั้นดูน่าเกลียด แต่มีค่าที่จะทะเลาะกันเรื่องนี้หรือไม่ ทำไมไม่ยอมให้เธอทำตามที่เธอต้องการและมีความสุข” เราสามารถวางสิทธิของเราลงเพราะเรารักเพื่อนบ้านของเรา และต้องการให้เขาได้รับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา แล้วจากนั้นเมื่อมีเรื่องที่สำคัญจริงๆ เราสามารถยืนขึ้นเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ถอย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเพื่อนบ้านของเรากำลังนำเราเข้าสู่บาป
เราอธิษฐาน: องค์พระเยซูเจ้า ขอทรงสอนข้าพระองค์ถึงความหมายของการยอมต่อผู้อื่นด้วยความรักเพื่อพระองค์และเขาเหล่านั้น อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- อะไรคือสิ่งแรกที่คุณคิดถึงเมื่อได้ยินคำว่า “ยอม” เพราะอะไร
- เมื่อไหร่ที่คุณเห็นคนที่เข้มแข็งยอมต่อความจำเป็นของคนที่อ่อนแอกว่า
- คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับความจริงที่ว่าพระเยซูทรงรักคุณมากพอที่จะยอมพระองค์เองเพื่อความจำเป็นของคุณ
© : Lutheran Hour Ministries