“ยกตัวเองขึ้น อย่าลดคนอื่นลง”

อาจารย์สอนยูโดชาวญี่ปุ่นวัยอาวุโสคนหนึ่ง ชวนลูกศิษย์หนุ่มชาวจีนเดินคุยไปตามชายหาดในยามเย็น ช่วงหนึ่งของการสนทนาอาจารย์ใช้ไม้เท้าขีดเส้นคู่ขนานลงไปบนผืนทรายขาวละเอียด เส้นหนึ่งยาวประมาณ 5 ฟุต และอีกเส้นหนึ่งยาวประมาณ 3 ฟุต แล้วก็พูดกับลูกศิษย์ว่า “เธอลงทำให้เส้นที่ยาวสามฟุตให้ยาวกว่าเส้นที่ยาว 5 ฟุตให้อาจารย์ดูหน่อยสิ” ศิษย์หนุ่มชาวจีนหยุดคิดพินิจจุดทั้งสองครู่หนึ่งแล้วก็เผยยิ้มเหมือนกับว่าเขาค้นพบคำตอบ เขาบรรจงใช้เท้าข้างหนึ่งลบรอยเส้นที่ยาวที่ยาวประมาณ 5 ฟุตนั้นให้สั้นลงจนเหลือนิดเดียว ซึ่งทำให้เส้นที่ยาวประมาณ 3 ฟุตนั้นโดดเด่นและดูยาวขึ้นมาแทน ลบเสร็จแล้วก็เงยหน้าสบตากับอาจารย์อย่างภูมิใจพลางขอความเห็น “ใช้ได้หรือยังครับ” ผู้เป็นอาจารย์ใช้ไม้เท้าเคาะหัวลูกศิษย์เบาๆ หนึ่งที ก่อนจะบอกว่า “หากใช้วิธีนี้ชีวิตเธอก็จะมีแต่ความล้มเหลว รู้ไหมคนที่คิดจะยกตัวเองให้สูงขึ้นโดยการทำร้ายคู่แข่งหรือคนอื่นนั้นไม่ใช่วิธีที่ฉลาดเลย ทางที่ดีควรจะยกตัวเองขึ้นแต่อย่าไปลดขึ้นอื่นลง” ว่าแล้วอาจารย์ก็ขีดเส้นทั้งสองใหม่ สาธิตวิธีโดยการปล่อยให้เส้นที่ยาว…

Continue reading

“อยากลืม..กลับจำ”

เป็นเพลงฮิตในอดีตที่มีสาระที่ดีมากสำหรับคนที่เคยมีความหลังหลายๆ เรื่อง ที่มีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีผ่านเข้ามาในชีวิต และก็ผ่านไป บางเรื่องที่ดีเราก็อยากจะจดจำเอาไว้ เพื่อเป็นความรู้สึกดีๆ ตลอดไป แต่เรากลับลืมไปง่ายๆ แต่ในทำนองเดียวกันเรื่องที่เลวร้ายทำให้เราเจ็บปวดนั้นเราอยากจะลืมมันเสีย ไม่อยากจะให้มันฝังใจเราอีกต่อไป แต่เรากลับจำไม่เคยลืม เพราะทำใจยากจนทำให้ลืมยากไปด้วย บางทีเรากำลังจะตัดใจลืมสิ่งไม่ดีนั้นอยู่แล้ว แต่พอไปเจอสิ่งที่เคยเกิดกับเราอีกก็เลยทำให้เรากลับไปคิดถึงมันอดีตที่ผ่านมาอีก แม้จะผ่านไปนานอย่างไรมันก็ยังกลับมาหลอนเราอีก เมื่อเป็นดังนี้ก็เลยทำให้เราอยู่ในสภาพของคน “อยากลืมกลับจำ” ไป             ส่วนบางคนพบเจอประสบการณ์ชีวิตที่ดีๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตก็อยากจะเก็บเอาไว้ในความทรงจำ แต่สุดท้ายก็กลับลืมไปเสียสนิท ขนาดบางคนนั้นเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้เขาประสบความสุขความสำเร็จในชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะลืม แต่เขาก็ยังลืมได้ ทั้งๆ ที่อยากจะจดจำเอาไว้ก็ตาม แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอย่างนี้ทุกคนนะครับ            …

Continue reading

“หญ้าที่ถูกเหยียบย่ำ”

ผมเชื่อว่าทุกคนคงจะชอบต้นไม้ใบหญ้าทุกชนิด เพราะมันช่วยทำให้ชีวิตจิตใจเบิกบานสดใส นักปลูกและอนุรักษ์ต้นไม้ใบหญ้าเคยบอกผมว่า เคล็ดลับหนึ่งที่ช่วยทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตงอกงามได้อย่างเต็มที่นั้น ก็ต้องให้โอกาสเจอแดดฝนเจอลมตามธรรมชาติที่บ้างก็เจอน้อยเจอมากแล้วแต่ธรรมชาติของมัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้ต้นไม้ใบหญ้าเจริญเติบโตได้             หญ้าที่เราปลูกอยู่ในสนามก็เช่นกัน ถ้าอยากจะให้หญ้าแข็งแรงงอกงามแผ่ขยายเต็มพื้นที่อย่างแน่นหนาแล้วละก็ เราต้องออกแรงเดินเหยียบย่ำไปบนพื้นหญ้าที่ปลูกเอาไว้ให้ทั่วถึงทุกตารางเมตร เหยียบและย่ำอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งสองครั้ง ทำอย่างนี้เป็นประจำสม่ำเสมอหญ้าก็จะเจริญงอกงามแข็งแรง ผมทดลองดูแล้วได้ผลตามที่ว่านี้จริงๆ เป็นความรู้ใหม่หลังจากที่ผมเคยคิดตลอดมาว่า การเหยียบย่ำบนพื้นหญ้าจะทำให้หญ้าตาย             ถ้าจะนำข้อคิดนี้มาใช้เปรียบเทียบกับชีวิตของคนก็คงจะเหมือนกันนั่นแหละ ชีวิตคนเราถ้าไม่เจอปัญหาหรืออุปสรรคบ้าง ชีวิตก็จะเป็นไปอย่างคนที่ขาดรสชาติ จากการกระตุ้นที่จะช่วยทำให้เติบโตแข็งแรง ชีวิตก็จะขาดภูมิต้านทานต่อแรงเสียดสีทั้งหลาย แต่ถ้าหากถูกกระทบจากความยากลำบาก ต้องฝันฝ่ามรสุมทั้งน้อยใหญ่ชีวิตถูกเหยียบย่ำบ้างไม่ว่าจะหนักเบาอย่างไร จะทำให้เราเกิดภูมิต้านทานที่ทำให้เรามีความเข้มแข็งรับกับความท้อแท้เหน็ดเหนื่อย หรือหมดหวังและสิ้นหวังทั้งหลายได้ พร้อมๆ กับชีวิตที่ยืนหยัดฟันฝ่าอุปสรรคอยู่รอดปลอดภัย จนกระทั่งเราสามารถยืนหยัดอย่างผู้ชนะได้อย่างสง่าผ่าเผย             ให้ระลึกเสมอว่าอุปสรรคคืออุปกรณ์ที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จและชัยชนะ…

Continue reading

“ที่พึ่งในยามยาก”

เมื่อเกิดปัญหาหรือพบกับความยากลำบากในชีวิต ปัญหาที่เจออยู่เสมอคือ ขาดที่พึ่งยามยาก บางคนถึงกับบอกว่า ใครที่ตกอยู่ในสภาพนี้ ชีวิตจะมีแต่ความท้อแท้หมดสิ้นความหวัง เพราะคนรอบข้างที่เราหวังพึ่งอาศัยจะเมินหน้าหนีหายไปหมด ยิ่งวันนี้ผู้คนส่วนมากจะกลายเป็นคนแล้งน้ำใจไปหมด หรือไม่ก็จะตกอยู่ในสภาพเจอความยากลำบากเข้าบ้างเหมือนกัน สรุปแล้วยามลำบากหรือมีปัญหานั้น จะหวังให้คนอื่นยื่นมือเข้ามาช่วยก็คงยาก วันนี้ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังประสบปัญหารุมเร้าชีวิต จนเกิดความท้อแท้ทุกข์ใจ ขออย่าได้ถอดใจหรือสิ้นหวัง ให้พิจารณาข้อความอันเป็นคำมั่นสัญญาของพระเยซูคริสต์ที่ให้ไว้แก่เราทุกคน ที่จะได้มีความหวังเหมือนเช่นกับผู้คนอีกมากมายที่ได้พบความหวังที่มาจากพระเยซูคริสต์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพระคุณและความรักต่อเราทุกคน และทรงพร้อมจะเป็นที่พึ่งของเราได้ในทุกปัญหาและทุกสภาวการณ์ของชีวิต พระสัญญาดังกล่าวนี้มีดังนี้ “เพราะเขาผูกพันกับเราด้วยความรัก เราจะช่วยกู้เขา เราจะป้องกันเขาไว้เพราะเขารู้จักนามของเรา เมื่อเขาร้องทูลเรา เราจะตอบเขา เราจะอยู่กับเขาในยามลำบากเราจะช่วยให้เขาพ้นและให้เกียรติเขา” (สดุดี 91:14-16) นี่คือคำมั่นสัญญาของพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงพระชนม์อยู่ในวันนี้และสืบๆ ไปเป็นนิตย์ เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่เต็มไปด้วยความรัก…

Continue reading

“ชีวิตที่อยู่ในอุ้งหัตถ์พระเจ้า”

เมื่อใดที่เราได้มอบชีวิตทั้งหมดให้กับพระเจ้าแล้ว เราไม่มีสิทธิ์ที่จะกำหนดชีวิตตามใจต้องการของเราอีกต่อไป เพราะพระเจ้าจะทรงเป็นผู้กำหนดชีวิตของเรา โดยพระเจ้าจะทรงดูแลทุกวิถีทางของชีวิตเรา เหมือนบิดาที่ดูแลลูกที่ตนรักอย่างไร พระเจ้าก็ทรงกระทำอย่างนั้นเช่นกัน                  ทุกก้าวเดินของเรานั้นจะมีคำตอบจากพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงรู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราตลอดเส้นทางเดินของชีวิต ซึ่งสำหรับลูกของพระองค์ทุกอย่างจะต้องอยู่ในกรอบที่ว่า “อะไรดีอะไรเป็นที่ชอบและอะไรยอดเยี่ยม” ซึ่งพระเจ้าจะทรงร่วมมือกับคนที่รัก และเชื่อฟังให้บังเกิด “ผลอันดี” นี่คือน้ำพระทัยแผนการของพระเจ้าที่มีต่อเราทุกคน                  ดังนั้น ชีวิตของผู้ที่รักพระเจ้าจึงต้องขึ้นอยู่กับ “ความเชื่อและความไว้วางใจ” ในพระเจ้าเป็นหลัก ซึ่งไม่ว่าอะไรทั้งดีหรือร้ายเกิดขึ้น อันเกิดจากความผิดพลาดที่บางครั้งเราเผลอตัวขาดความเชื่อฟัง พระเจ้าก็ให้โอกาส และนำพาเรากลับสู่เส้นทางของพระองค์ที่วางไว้สำหรับเราเสมอ                  หน้าที่ของเรานั้นจึงต้องเชื่อวางใจในพระสัญญาของพระเจ้าอย่างคงเส้นคงวา โดยปราศจากความสงสัย เพราะความสงสัยคือ ตัวทำลายความเชื่อที่จะทำให้เราเกิดความไม่มั่นใจหรือขาดความไว้วางใจ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็มีผลกระทบต่อความเชื่อของเราได้เหมือนกัน…

Continue reading