“ชีวิตที่มีความสุข”

ถ้าจะถามว่าเราอยากจะมีชีวิตในโลกนี้อย่างไร? ทุกคนก็คงจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “อยากอยู่อย่างมีความสุข” ซึ่งคงไม่มีใครอยากจะอยู่อย่างมีความทุกข์แน่นอน สรุปได้ว่า ทุกคนอยากจะอยู่ในโลกนี้อย่างมีความสุข และถ้าจะถามอีกว่า แล้ววันนี้ทุกคนอยู่อย่างมีความสุขตามที่ตั้งความหวังไว้หรือไม่ อย่างไร? คำตอบก็คือ ชีวิตไม่ได้มีแต่เพียงความสุขตามที่ต้องการเพียงอย่างเดียว ยังมีความทุกข์เข้ามาบั่นทอนความสุขให้หมดไปอีกด้วย ที่หนักไปกว่านั้น มีบางคนไม่เคยรู้จักคำว่าความสุขเลย เพราะชีวิตมีแต่ความทุกข์อยู่ตลอดเวลา ส่วนบางคนก็พอจะมีความสุขบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะมีแต่ความทุกข์เสียมากกว่า บางคนจะมีทั้งสุขหรือทุกข์คละเคล้ากันไป เคยคิดไหมว่า ทำไมชีวิตถึงได้เป็นอย่างนี้ ทำไมความสุขที่เราปรารถนามากกว่าสิ่งอื่นใดจึงได้บ้างไม่ได้บ้าง เป็นความสุขที่ขาดๆ หายๆ ได้มาเพียงชั่วครู่ชั่วยามแล้วก็หายไป ในขณะเดียวกันความทุกข์ที่เราไม่ต้องการกลับวิ่งเข้ามาสู่ชีวิตของเราครั้งแล้วครั้งเล่าไม่มีหยุดหย่อน ก็จะบอกว่าเราไม่มีความสุขนั้นก็เพราะเราไม่ได้แสวงหาอย่างจริงจัง อันนี้ก็คงไม่ใช่ เพราะทุกคนต่างดิ้นรนแสวงหาความสุขด้วยกันทั้งนั้น ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน งานของเราก็คือออกไปหาความสุขมาให้กับตัวเองและให้กับครอบครัว…

Continue reading

“ให้เราซาบซึ้งในความรักของพระเจ้าผ่านคำอธิษฐานกันเถอะ”

พระวจนะของพระเจ้าทรงสอนเราทั้งหลายดังนี้ว่า คือให้ซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ซึ่งเกินความรู้ เพื่อท่านจะได้รับความไพบูลย์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม เอเฟซัส 3:19 วันนี้ใคร่ให้เรามาอธิษฐานด้วยความซาบซึ้งในความรักของพระเจ้ากันเถอะ ข้าแต่พระเจ้า พระบิดาผู้ทรงรักข้าพระองค์ทั้งหลายด้วยความรักแท้และรักนิรันดร์ พระองค์ทรงประทานพระบุตรของพระองค์เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้พ้นจากโทษของความผิดบาป พระองค์ไม่ทรงคิดมูลค่าใดๆ สำหรับค่าไถ่บาป แต่พระองค์ทรงสละพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ลงมาเพื่อเป็นค่าไถ่บาปแทนข้าพระองค์ทั้งหลาย ในเวลานี้ข้าพระองค์ซาบซึ้งในพระคุณความรักของพระองค์เป็นยิ่งนักสำหรับความรักของพระองค์ที่เป็นรักที่ยิ่งใหญ่ เป็นรักที่เสียสละ เป็นรักที่ยอมรับผิดแทน ยอมตายแทนบาปเรา เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้รับการอภัยโทษบาปและพ้นจากความตายครั้งที่สองไปสู่ความไพบูลย์ของพระองค์ เพราะเหตุนี้ข้าพระองค์จึงคุกเข่าต่อพระบิดา ขอให้พระเกียรติพระสิริจงมีแด่พระองค์ผู้เดียวตลอดไปเป็นนิตย์ ข้าพระองค์ซาบซึ้งในพระคุณพระองค์จนหาที่สุดมิได้ กราบทูลอธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน คือให้ซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ซึ่งเกินความรู้ เพื่อท่านจะได้รับความไพบูลย์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม เอเฟซัส 3:19

Continue reading

“คุณค่าของความเป็นคนอยู่ที่ไหน”

มีคำถามอยู่เสมอว่า “คุณค่าของคน” อยู่ที่ไหนและอะไรคือคุณค่าของคน ดูเหมือนว่าความคิดของแต่ละคนในเรื่องนี้จะไม่เหมือนกัน บางคนก็บอกว่าคุณค่าของคนอยู่ที่สติปัญญาความรู้ความฉลาด บางคนก็ว่าอยู่ที่อำนาจวาสนา ยศศักดิ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่ความร่ำรวย มีอีกเยอะที่สร้างนิยามให้กับ “คุณค่าของคน” บ้างก็ว่าคุณค่าของคนอยู่ที่รูปสมบัติ สรุปแล้วใครจะตั้งคำนิยามของความคิดเห็นอย่างไรก็แล้วแต่ เพราะความจริงแล้วคุณค่าที่เอ่ยมานั้นล้วนแต่เป็นคุณค่าที่เสื่อมสูญหายสิ้นสภาพไปได้ทั้งนั้น จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง             แต่คุณค่าของคนที่อยากจะพูดถึงก็คือคุณค่าที่ถูกมองข้าม ที่น้อยคนที่จะให้ความสำคัญ นั่นก็คือ “คุณค่าของคนอยู่ที่ความดีของเขา” คุณค่าของความเป็นคนดีดังกล่าวนี้หาได้ยากในสังคมโลกวันนี้ ตามหลักความเชื่อของคริสเตียนแล้วเชื่อว่า คนดีที่มีคุณค่าน่ายกย่องนั้นนับวันแต่จะลดน้อยไปทุกๆ วัน ตรงตามที่พระวจนะธรรมคัมภีร์กล่าวไว้ว่า “ความชั่วจะทวีขึ้น ความรักจะเยือกเย็นลง” (มัทธิว 24:12) แนวโน้มก็เป็นอย่างที่ว่านี้จริงๆ เมื่อมีความชั่วเพิ่มมากขึ้นเท่าใด…

Continue reading

“มาอธิษฐานขอพระเจ้าทรงฟื้นฟูชีวิตของเรากันเถอะ”

พระวจนะของพระเจ้าทรงสอนเราทั้งหลายดังนี้ว่า องค์ผู้สูงเด่น คือผู้อยู่ในนิรันดร์กาล ผู้ทรงพระนามว่าบริสุทธิ์ ตรัสดังนี้ว่า “เราอยู่ในที่ที่สูงและบริสุทธิ์ และอยู่กับผู้ที่มีจิตใจสำนึกผิดและถ่อม เพื่อจะรื้อฟื้นจิตใจของผู้ใจถ่อม และรื้อฟื้นใจของผู้สำนึกผิด” อิสยาห์ 57:15 วันนี้ขอเชิญชวนให้เรามาอธิษฐานขอพระเจ้าทรงฟื้นฟูชีวิตของเรากันเถิด ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา พระเจ้าผู้ทรงประทับในที่สูงสุด พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ที่สุด ข้าพระองค์ทั้งหลายขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ทรงมีพระเมตตาคุณจนหาที่เปรียบมิได้และความรักของพระองค์เป็นรักมั่นคงนิรันดร์ ข้าแต่พระเจ้า ในเวลานี้เป็นเวลาที่ข้าพระองค์อ่อนแอ เป็นเวลาที่ข้าพระองค์ท้อแท้สิ้นหวัง จะเนื่องด้วยความยากลำบากในการดำเนินชีวิตในท่ามกลางอันตรายของโรคระบาด และต้องเผชิญกับความยากลำบากในการประกอบอาชีพเลี้ยงดูชีวิตและผู้คนในครอบครัว ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงขึ้นเรื่อยๆ จิตใจของผู้คนตกต่ำ ย่ำแย่ เพราะในทุกๆ วันเต็มไปด้วยข่าวสารในด้านลบมากมาย สิ่งเหล่านี้ได้ดึงข้าพระองค์ออกไปจากทางของพระองค์ อีกทั้งข้าพระองค์เองก็ได้กระทำความผิดบาปต่อพระองค์และต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ข้าแต่พระเจ้า มีหลายสิ่งหลายอย่างทำให้กำลังของข้าพระองค์ทั้งกายใจและจิตวิญญาณอ่อนแอลง…

Continue reading

“อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน”

“จงอย่าไว้วางใจใครสักคนในโลกนี้ เพราะแม้แต่เงาของคุณเองยังหนีจากคุณเมื่อคุณอยู่ในความมืด” เป็นอีกหนึ่งข้อคิดคำคมที่เตือนใจเราได้เป็นอย่างดี สำหรับเรื่องความไว้วางใจ เพราะหากเราวางใจใครสักคนที่คิดว่าเขาเป็นคนดี แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับทำให้เราผิดหวังขึ้นมา ความเจ็บปวดใจก็จะเกิดขึ้นกับเราอย่างไม่ต้องสงสัย จะเจ็บมากเจ็บน้อยอย่างไรมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราวางใจเขามากแค่ไหนเพียงไร ด้วยเหตุนี้ภาษิตโบราณท่านจึงย้ำเตือนเราตลอดมาว่า “อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน”             ทำไมเราต้องระมัดระวังในการไว้วางใจ “คน” ดูคำตอบจากพระวจนะธรรมคัมภีร์จะบอกเหตุผลไว้อย่างชัดเจนว่า “จิตใจมนุษย์โกงเกินบรรดาทุกสิ่งและชั่วร้ายกาจนัก” (เยเรมีย์ 17:9) นี่คือสาเหตุสำคัญที่เราจะไว้วางใจคนแบบง่ายๆ โดยไม่ดูให้รอบคอบเสียก่อน ดูกันนานๆ จนกว่าเราจะรู้จักตัวตนของคนๆ นั้นอย่างถ่องแท้ แล้วจึงค่อยให้ความไว้วางใจเขา ส่วนการดูคนให้ดีจนกว่าเราจะรู้แจ้งเห็นจริงได้ก็ต้องใช้เวลา อย่าด่วนสรุปเพียงเพราะเหตุผลผิวเผิน เพราะสิ่งดีในตัวคนที่เราเห็นอาจเป็นแค่หน้ากากที่ดูดีและสวยงามชิ้นหนึ่งเท่านั้น ส่วนตัวตนจริงนั้นถูกปิดซ่อนไว้ข้างใน ไม่ให้เราเห็นจึงต้องรอเวลาสักวันหนึ่งเขาจะเผลอแสดงตัวตนจริงออกมาให้เราเห็น เพราะไม่มีใครที่จะปิดซ่อนตัวตนจริงไว้ได้นาน…

Continue reading